Category Archives: เรื่องทั่วไป

คิดถึงบ้าน

คิดถึงบ้านจัง คิดถึงบรรยากาศบ้านนอก เพลงนี้บอกเล่าความรู้สึกของผมในตอนนี้ได้ดีทีเดียว

เปลี่ยนผ่าน

          ในช่วงกลางเดือนตุลาคมอากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงจากฤดูฝนจะเข้าสู่ฤดูหนาว เข้าสู่ช่วงการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ปีนี้ข้าวทางภาคอีสานคงได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนอย่างฤดูกาลที่แล้ว เพราะช่วงต้นฤดูกาลเพาะปลูกฝนทิ้งช่วงบ่อยและยาวนาน นี่คือความไม่แน่นอนของสภาพดินฟ้า อากาศ ซึ่งทำให้ได้ผลผลิตไม่แน่นอนตามไปด้วย แถมราคาก็ถูกกดถูกหักอยู่เสมอ วันนี้รัฐยังแก้ปัญหาที่ปลายเหตุอยู่ เพราะมันเป็นอะไรที่เห็นผลรวดเร็ว ถูกอกถูกใจชาวนา ที่ยังมืดบอดไม่เข้าใจปัญหาของขบวนกาจัดการของตัวเองอย่างแท้จริง และได้แต่รอความหวังจากรัฐบาล ซึ่งพฤติกรรมอย่างนี้เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ ชาวนาไทยกำลังอ่อนแอลงเรื่อยๆ ระบบเศรษฐกิจแบบทุนกำลังกลืนวิถีชีวิตชาวนาแบบเดิมๆแทบหมดสิ้น ทุกอย่างในขบวนการทำนา กลายเป็นเงินเข้ามาขับเคลื่อนหมดเลย ตัวชาวนาเองก็ไม่มีเรี่ยวแรงจะทำเองได้ ลูกหลานก็ไม่ค่อยได้ช่วยแล้ว หลายครอบครัวลูกจะไปทำงานในเมืองใหญ่ แล้วส่งเงินกลับมาเป็นค่าจ้างแรงงานในการทำนา ครอบครัวชาวนาลูกก็ไม่ทำนาแล้ว ไปทำงานที่อื่น แถมมีหลานมาให้เลี้ยงดูอีกด้วย พบมากเหลือเกินตามชนบททุกวันนี้ การอาศัยช่วยเหลือกันเหมือนอย่างสมัยแต่ก่อนตอนสมัยผมเด็กๆไม่มีแล้ว ทุกแรงงานต้องจ่ายค่าตอบแทนเป็นเงิน การขับเคลื่อนเศษฐกิจทำให้ความคิดจิตใจเราเปลี่ยนไป ต้องได้ผลประโยชน์ถึงจะช่วยกัน การเกื้อกูลด้วยใจเมตตากรุณาที่หวังผลเพียงความสุขทางใจที่ได้ช่วยเพื่อนมนุษย์ค่อยเลือนหายไป เห็นได้ชัดในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา วันนี้เราพึ่งพาตัวเองน้อยลง วันนี้ทักษะความสามารถในการพึ่งตัวเองน้อยลง คือหาเงินจากอาชีพที่เราถนัด ได้เงินก็เอาไปซื้อปัจจัยอะไรต่างๆ มีสาระบ้างไร้สาระประโยชน์บ้าง การงานทุกวันนี้ก็ไม่ต่างกับการทำการเกษตรเชิงเดี่ยวของเกษตกร เพราะเกษตกรทุกวันนี้ก็รัอิทธิพลมาจากสังคมเมืองนั่นเอง ศิลปะ ทักษะ อาชีพ ความรู้ความสามารถ เราถูกบีบลง ดังนั้นเราจึงต้องการเงินรายได้มากพอสมตวรจากการงานที่ทำนั้นๆ ไปซื้อ ไปจ้าง แถบจะทุกอย่าง วันนี้เราพึ่งตนเองน้อยลงในลักษณะอย่างนี้ วันนี้เราพึ่งปัจจัยภายนอกมาก แน่นอนว่ายิ่งพึ่งมากก็ต้องหาเงินให้เก่ง เพื่อให้มีรายได้มากๆ มาซื้อในส่วนที่เราทำเองไม่ได้ ในสวนที่เราไม่มี ในส่วนที่เราพร่องเราขาด ยิ่งพร่องมากก็ยิ่งต้องเหนื่อยมาก มองอีกมุมเราเป็นอยู่ด้วยความพร่องหรือเราเป็นอยู่ด้วยความเกินกันแน่ อันนี้ก็น่าคิด เป็นเรื่องเฉพาะบุคคลไปแล้วกัน

          ก็บ่นๆกันไป สำหรับเรื่องการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ก็แก้ปัญหากันไป รัฐบาลก็เอาตัวรอดไปวันไม่ต่างจากเราเหมือนกัน ต่างกันที่วิธีการ และผลที่ว่ามัดจะรอดไปแค่ไหน ทั้งโลกนี้และโลกหน้าหรือป่าว? รัฐบาลไม่ใช้ที่พึ่งอันประเสริฐ อย่าไปหวังอะไรกับกลุ่มคนเหล่านี้มาก ปัญหาของเขามีเยอะ อย่างที่เคยว่าไป ยิ่งแก้เหมือนยิ่งผูกนั่นแหละ ปัญหาทุกวันนี้ยิ่งทวีความซับซ้อนมาก สุดท้าย คนเรากต้องกลับมาแก้ที่ตัวเราเองอยู่ดี เรารู้จักตัวเราเองดีแค่ไหน ทุกคนมีปัญหาของตัวเองทั้งนั้น ใครหมดปัญหาในตัวเองก็คงไม่ต้องมาเกิดอีก จริงมั๊ย?  ปัญหาของเราเองเรายังงงๆยังไม่รู้เรื่องจะให้คนอื่นมารู้มาเข้าใจมาให้คำตอบเราถูกได้ไง  

          สังคมบริโภควันนี้ ค่านิยมในการบริโภคของผู้คนวันนี้กู่ไม่กลับแล้ว กำลังดำเนินไปสู่การล่มสลาย การแก่งแย่ง การเอารัดเอาเปรียบ การแย่งชิงทรัพยากร ปัญหาด้านพลังงาน ปัญหาทางด้านอาหาร คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ และปัญหาอีกหลายๆด้าน กำลังก่อตัวขึ้นครับ ยิ่งความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมากเท่าไหร่ ความเสื่อมที่เป็นเหมือมะเร็งร้ายก็กำลังแพร่กระจายรุกลามเช่นกัน ดูแล้วถ้าเปรียบโลกกับการเป็นมะเร็งแล้ว ตอนนี้อาการห้าสิบ-ห้าสิบ แต่โดยพฤติกรรมรวมๆแล้ว ไม่มีทางหายแน่ครับ โรคของโลกนี้ต้องดูกันยาว อาการป่วยเราทุกคนก็ต่างรู้ๆ พวกเราก็เหมือนพวกดื้อไม่ฟังคำเตือนหมอ อย่างไงอย่างงั้นเลย สังคมใหญ่ปัญหาก็ใหญ่ตาม การจัดการควบคุมดูแลมันก็ไม่ทั่วถึง สังคมเล็กปัญหาก็ไม่มาก หากมีความรักและความสามัคคีเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้พัฒนาตนเองอย่างเข้มแข็ง ซึ่งรวมไปถึงการพัฒนาทางด้านจิตใจด้วย แล้วสังคมเล็กนั้นจะเป็นสังคมที่น่าอยู่ที่สุด การพัฒนาประเทศของเราวันนี้ไม่ต่างกันมากนักกับต้นไม้ที่ล้อมมาปลูก มันไม่มีรากแก้ว ระบบรากมันไม่แข็งแรง ก็ได้แต่ประคองกันไป ปล่อยไปไม่รู้วันใดลมแรงๆมันจะมาโค่นต้นล้มลง ฉะนั้นรากต้องดี ต้องแข็งแรงก่อน ต้องหาแร่ธาตุ น้ำ อาหาร เก่ง ต้นไม้ใหญ่ รากแก้วต้องลึก รากแขนงต้องแผ่กว้าง ถามว่าวันนี้รากเก่งพอจะหาอาหารเองได้หรือยัง ถ้ายังก็ปรับปรุงบำรุงดินซะ รากดีเขาก็จะส่งอาหารไปเลี้ยงดูลำต้นได้ดีเอง  ถามหน่อยว่าหากรัฐเป็นชาวนา แล้วชาวนาผู้ยากจนเป็นต้นข้าวในนา รัฐบาลบาละใส่ปุ๋ยอะไรลงในนาข้าวตัวเอง ระหว่างปุ๋ยเคมี กับปุ๋ยอินทรีย์ ผมว่าคำตอบมันก็เห็นๆกันอยู่ ดูกันยาว แต่ถ้ารู้และเข้าใจ ก็คาดเดาตอนจบได้เลย คือถ้าเริ่มจากเหตุอย่างนี้ผลตามมาเป็นอย่างไร ถ้าเข้าใจแบบนี้ ก็ไม่ต้องเสียเวลาดูจนจบ หากผิด ไม่ดีมีผลกระทบากจะได้รีบแก้ตั้งแต่แรกๆ จะได้ไม่กลายเป็นการแก้ปัญหาใหญ่ในภายหลัง วันนี้อยากเห็นชาวนาเรียนรู้ที่จะผลิตข้าวอินทรีย์ ผลิตข้าวที่มีคุณภาพ ลดการพึ่งพิงปัจจัยภายนอก มีการรวมกลุ่มผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ แปรรูปเป็นข้าวสาร สร้างแบรนด์ เพื่อสามารถกำหนดราคาสินค้าของตัวเองได้ วันนี้เริ่มเห็นแล้ว แต่ยังน้อยมาก ภาครัฐควรมาบำรุงดินในลักษณะอย่างนี้ให้มากขึ้นถ้ามีความจริงใจกันจริงๆ ขอฝากไว้ (ฝากใคร?) ใครก็ได้ที่สามารถ เอาไปคิดเอาไปทำที

เหนื่อยก็พัก หนักก็วาง

Image

        หลังจากที่ไม่ได้เขียนอะไรมาก็เนินนาน จนไม่รู้จะเขียนอะไร หลายสิ่งหลายอย่างได้เข้ามาในชีวิต แล้วก็ผ่านไป ชีวิตที่ยังมีลมหายใจก็ต้องต่อสู้กันต่อไป มีทุกข์ให้แก้ ให้ดับกันไป ไว้เว้นในแต่ละวัน ไอ้ที่เคยคิดว่ามันดับแล้วก็ลุกขึ้นมาใหม่ ไอ้ที่เข้ามาใหม่ก็ยังคงว้าวุ้นอยู่ ว่าไปแล้วยุคนี้มันก็มีอะไรๆล่อกิเลสอยู่เต็มไปหมด ทำให้อยากมี อยากเป็น อยากได้อยู่ไม่มีที่สิ้นสุด ทรัพยากรมากมายก็ถูกขุด ถูกทำลาย เพื่อนำมาสร้าง นำมาผลิต นำมารองรับความต้องการของคน ยุดที่คนมองว่าเจริญก้าวหน้าทั้งทางวัตถุทางเทคโนโลยี มองให้ดีมันเป็นยุคเสื่อมของโลก ยิ่งสร้างก็ยิ่งรก ยิ่งรกมันก็ยิ่งเกิดปัญหา ในมุมหนึ่งสร้างอีกมุมหนึ่งก็ถูกทำลาย จิตใจคนก็กำลังเสื่อมลงไปทุกทีเช่นกัน ต่างกับผู้คนในยุคก่อนๆ ที่แม้จะไม่มีอะไรเป็นเครื่องมืออำนวยสะดวกง่ายเหมือนอย่างทุกวันนี้ แต่จิตใจเขาเย็นไม่ถูกเผาลนด้วยกิเลสเหมือนคนในยุคปัจจุบันนี้ ที่มีทั้งปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจอีกทั้งปัญหาการเมือง ปัญหาสังคม ปัญหาสิ่งแวดล้อมเยอะแยะเต็มไปหมด ยิ่งแก้ก็เหมือนยิ่งผูก พอยิ่งไปผูกมันก็เลยหมดปัญญาที่จะแก้ โลกมันก็เป็นอย่างนี้ ธรรมดาที่โลกมันจะต้องวุ้นวายอยู่แล้ว ยิ่งคนมากก็ยิ่งวุ่นวายมาก หลากความคิดหลากความเห็น เหมือนกับว่าคนยิ่งฉลาดมากก็ยิ่งโง่มาก มีมานะมาก มีอหังการ มมังการ เป็นเงาตามมา กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าความเห็นแก่ตัว อัตตาตัวตนหนาแน่น จึงเกิดการทำอะไรๆก็เพื่อตัวเอง ตอบสนองความความต้องการขอตัวเองให้มากขึ้นๆ เมื่อเห็นแก่ตัวเองมากขึ้นก็เห็นแก่ผู้อื่นน้อยลง เห็นผลกระทบต่างๆในมิติต่างๆที่เกิดขึ้นตามมาจากการกระทำนั้นน้อยลง เพียงเพื่อสำเร็จประโยชน์ของตัวเอง ยิ่งเก่งมาก มีทุนมาก มีอำนาจมาก ก็อาจเป็นผู้สร้างความเสื่อมให้กับโลกได้มากเช่นกันหากจิตใจเขาไม่ได้สูงตามสิ่งที่มีที่เป็นนั้นไปด้วย ผมเห็นหลายเมืองที่โตขึ้น ทำให้ผมเข้าใจคำนี้มากขึ้น ว่าอย่าทำโลกให้วัฒนาเลย มันเป็นเช่นนี้เอง ยิ่งมากก็ยิ่งหลง ยิ่งหลงก็ยิ่งเหนื่อย แต่ด้วยเพราะมีเหยื่อล่อ อยู่เรื่อยๆ ก็เลยตกเป็นทาสของเหยื่อ เป็นทาสวิ่งไล่งับเหยื่อจนวันตาย งับเหยื่อนี้ได้ งับเหยื่อนั้นต่อ และก็ต่อๆๆ มองเห็นภาพตัวเองเป็นอยู่แบบนี้ ในมุนหนึ่งก็ดูน่าตื่นเต้นดี มองในอีกแง่มุมหนึ่งก็น่าสงสาร น่าเวทนาเหลือเกิน มันโง่ได้ขนาดนี้เชียวหนอคน จึงวิ่งตามเหยื่อได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย เกิดมาเพียงเพื่อแสวงหา ไขว่คว้า สะสม ถึงเวลาก็ตายเหมือนกันหมดไม่ว่าจะสูง ต่ำ ดำ เตี้ย ยาก ดี มี จน คนเล็ก เด็ก ผู้ใหญ่ แต่สิ่งที่ต่างคือการมีชีวิตอยู่ของคนแต่ละคน มีความพัฒนาความเป็นมนุษย์มากน้อยต่างกันเพียงไหน  ใช้เวลาของชีวิตอันน้อยนิดที่ได้เกิดมา ทำอะไร เพื่ออะไร จะไปกันที่ตรงไหน สิ่งเหล่านี้ก็แตกต่างกันไปตามกำลังสติ ปัญญาของแต่ละคนที่ได้สั่งสมมา ต่างชีวิต ต่างจิตต่างใจ  เดินบนเส้นทางของใครของมัน ตามความยึดมั่นไปตามแต่ละบุคคลไป ถ้าได้หลักยึดที่ดีก็ดีไป หลักไม่ดีก็ไหลไปตามกระแสไป มีสุขบ้าง มีทุกข์บ้าง อยู่ที่ มุมมอง ความคิด สติปัญญา ที่จะเข้าใจ และจะจัดการกับสิ่งต่างทั้งที่ดีหรือว่าร้ายเหล่านั้นกันอย่างไร

        เหนื่อยก็พักหนักก็วาง ระหว่างพัก ระหว่างวาง ก็ควรจะได้หยุดคิด หยุดพิจารณาว่า ไอ้ที่เหนื่อยอยู่นี้เพื่ออะไร จำเป็นที่จะต้องเหนื่อยขนาดนั้นไหม มีวิธีที่ดีกว่านี้ไหมที่จะได้เหนื่อยน้อยลง ไอ้ที่หนัก ที่แบกอยู่นี้ จะแบกไปเพื่ออะไร สมควรที่จะยังต้องแบกต่ออยู่ไหม ถ้ายังจำเป็นต้องแบกก็แบกต่อไป ได้พักบ้าง ได้วางบ้าง แต่ขออย่างเดียวไปให้ถูกทางก็พอ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเหนื่อย และต้องแบกอะไรหนักๆ ไปอีกยาวนาน

ลอยกระทงคนเดียว

          ลอยกระทงไม่ได้หลงวันหรอกครับ แต่การเขียนเหมือนจะช้าไปสักหน่อย หรือว่าไม่หน่อย เดือนอ้ายจะเข้าเดือนยี่แล้วนะตอนนี้ อากาศช่วงนี้ก็หนาวๆอยู่บ้างเป็นบางเวลา เราเองยิ่งไม่ค่อยจะมีเสื้อกันหนาวใส่ ที่มีก็ตัวบางๆตัวเก่าๆ ตามประสาคนที่ไม่ค่อยซื้อเสื้อผ้า ไม่แฟชั่น ไม่ค่อยแต่งตัว ส่วนในช่วงเมื่อตอนวันลอยกระทงที่ผ่านมาก็หนาวใช้ได้เหมือนกันนะ เพราะลงไปว่ายน้ำเก็บสตังค์ในกระทง พูดเล่น แต่ก็ได้หลายบาท ก็คุ้มเหมือนกันนะ แนะ! ยังจะเล่นอีก.
          ปีนี้ไม่ได้ไปลอยกระทงที่ไหนไกล ลอยที่สระในสวนตามความตั้งใจที่ดูเหมือนไม่ค่อยที่จะตั้งใจสักเท่าไหร่เลย สังเกตุได้จากกระทงเอาเองก็แล้วกัน ก็กว่างานในสวนจะเสร็จ(เสร็จเท่าที่เสร็จเท่าที่พอ) ก็เกือบจะหนึ่งทุ่ม ใจก็อยากจะลอยกระทงที่สวน แต่ไม่มีเวลาทำกระทงเลย แต่นึกขึ้นได้ว่าข้างทางมีต้นกล้วยที่เด็กน้อยนักเรียน(หลานๆ)ตัดเหลือทิ้งไว้ยังอยู่ ถึงตอนนี้คงไม่มีใครเอาไปใช้อะไรแล้วขอละกัน กลับถึงบ้านก็ โป๊ะป๊ะๆ ไม่ถึงห้านาทีเสร็จเรียบร้อย ดอกไม้ล่ะ? เอามาโรยหน้าหน่อย ก็ได้ชวนชมกับดอกโกเมนมาโรยตรงกลางดูดีขึ้นมาอีกนิดหน่อย ธูปเทียนพร้อม ไป!
          มาถึงสวนจะลอยตรงไหนดี ลม น้ำกระเพื่อมไปทางไหน จะไปลุกติดไฟไหม้อะไรไหมเอ่ย? ได้ที่แล้วก็ตั้งจิตตั้งใจขอขอบคุณสระน้ำแห่งนี้ที่ทำให้ที่นี่ดูมีชีวิตขึ้น เริ่มเขียวขึ้น เริ่มมีความหลากหลายของพันธุ์พืช ทำให้เรามีกินมีใช้ ครั้นเมื่อเวลามาอยู่ที่นี้แล้วก็มีความสุข มีอิสระ ปลอดโปร่ง ไร้ซึ่งอะไรที่จะมาบีบบังคับ กดดัน มีลมพัดเย็น เริ่มมีความร่มรื่นขึ้น ยามกลางวันดูปลาก็เพลิน หัวค่ำเป่าขลุ่ย ดูหิ่งห้อยบินระยิบระยับตามขอบตลิ่งก็เพลิน พอตื่นเช้ามาท่ามกลางบรรยากาศที่แวดล้อมไปด้วยทุ่งนาทุกด้าน(ตอนนี้เกี่ยวหมดแล้ว) ท่ามกลางน้ำ(เกือบที่จะเป็นเกาะอยู่เหมือนกัน) มีปลามาลอยรอรับอาหารยามเช้า แต่ผมไม่ค่อยให้หรอก เพราะเปลือง เดี๋ยวเด็กๆจะมาให้ตอนเย็นอีก เช้าๆก็จะมีเสียงนกเขานกกาเหว่าร้อง บรรดานกส่งเสียงคุยกันจอแจ วันนี้แกจะไปหากินที่ไหน ฉันไปด้วยคนสิ เท่าทีพอจับใจความได้(มั่ว) เสียงเหล่านี้กับบรรยากาศรอบตัวที่มีต้นไม้เขียวสบายตา เรียกว่าเป็นสุขสดชื่นในยามเช้า ได้เดินดูพืชผักผลไม้ โตไปถึงไหน แก่หรือสุกพอที่จะเก็บได้แล้วหรือยังวันนี้ อยากกินแล้วนะ ก็เพลินดีไปอีกแบบ เวลาทำงานในสวนก็เพลินดี สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะเรามีน้ำเพียงพอ ในการที่จะมาดูแลพืชผลต้นไม้ต่างๆ เมื่อปีก่อนต้นไม้ดอกไม้ประดับในบ้านเหี่ยวแห้งตายไปมากทีเดียว เพราะระบบน้ำประปาหมู่บ้านไม่ค่อยดี ถึงวันนี้ก็ยังเหมือนเดิม และบวกกับสภาพอากาศที่ร้อนเหลือเกิน ก็ขนมาที่สวนนี้ และก็ได้น้ำจากสระนี้ช่วยไว้ ก็ขนมาหลายเที่ยวอยู่เหมือนกัน ที่ตายไปก็เยอะ ก็มาเริ่มกันใหม่ที่นี่ สิ่งต่างๆที่กล่าวมานี้ขาดน้ำไม่ได้เลย น้ำให้ชีวิตจริงๆ เมื่อเห็นความสำคัญเช่นนี้จะให้ไปลอยกระทงที่ไหนได้อีก ถ้าจะลอยก็ที่นี่เท่านั้น เพื่อแสดงความเคารพบูชาและขอขมาในสิ่งที่แย่ๆ ที่ได้เคยทำลงไป ที่นึกออกตอนนั้นมีอย่างเดียว คือเยี่ยวในน้ำ อุบาทว์เนาะ 555  เพราะขี้เกียจขึ้นมา ครั้นจะขึ้นมาก็หนาว ไหนจะต้องวิ่งหาที่กำบังอีก ทำงานในน้ำนะเนาะก็เสียเวลาขึ้นๆลงๆ ก็เลยขอขมาในส่วนตรงนี้ และก็อธิฐานเหมือนกับตอนขึ้นกระท่อมใหม่ พูดให้หรูดูดีขอเรียกว่ารีสอร์ทแทนกระท่อมได้ไหม? แต่กระท่อมนั่นแหละเหมาะแล้ว แต่ก็ไม่เชิงว่าอธิฐานเสียทีเดียวหรอก แต่เพียงขอให้เจ้าที่เจ้าทาง เทวดาถ้ามีขอให้ช่วยดูแล ค้ำชู เกื้อหนุน ลูกจะมาทำให้ที่นี่ร่มรื่น อุดมสมบูรณ์ ปลูกอะไรก็ขอให้งอกงาม มีกิน มีใช้ มีแบ่ง มีขาย มีสุข และวันนี้ผ่านมาเกือบ4-5ปี ก็ค่อยๆเริ่มสัมผัสได้แล้วถึงความสุขที่ได้รับกับวิถีพอเพียงตามปรัชญาของในหลวงท่าน ถ้าวันไหนได้ยินเสียงเพลง เสียงขลุ่ยดังขึ้นในหัวค่ำวันไหน วันนั้นช่างมีความสุข มีสุนทรีย์ ท่ามกลางบรรยากาศรอบๆข้าง ที่สายตาเรามองออกไป มั่นอิ่มเอมยังไงบอกไม่ถูก ต้องปลดปล่อยออกไปให้โลกรู้ไปตามสายลม ว่าสุขจริงโว้ย! เสียงจากกระท่อมหัวนากู่ก้องดังออกไป มันบอกอย่างนั้น และไม่ต้องเกรงใจใครว่าเขาจะหูหนวก เฮ้ย! หนวกหูหรือรำคาญ เพราะมีระยะห่างจากชุมชนพอสมควร ทั้งๆที่สวนมันก็ไม่ค่อยจะมีอะไรมากมายแต่ความสุขใจมันเกิดขึ้นง่ายๆกับสิ่งเล็กๆเรียบง่ายเพียงแค่นี้เอง ก็แปลกดีเหมือนกัน
          ตกเย็นของอีกวันเด็กๆมาเยี่ยมมาเยือนเหมือนเดิมทั้งหญิงทั้งชาย ขี่จักรยานกันมาบ้าง เดินมาบ้าง หรือว่า มาตามเพื่อน พากันมาให้อาหารปลา  ก็มาเห็นกระทงเรา เด็กๆก็เลยถามเพราะสงสัย ถามว่ากระทงใครหรือหนอนี่ มันซกม๊กตลกดี เจ้าของกระทงนี้ห่วยจังเลย กระทงผีบ้า กระทงผีบ้า กระทง กระทง กระทงผีบ้า 555. ถามว่าอายไหม? เอาเป็นว่าปีหน้าเอาใหม่ คอยดูก็แล้วกัน แล้วก็จะไม่ลอยคนเดียวเหมือนอย่างปีนี้ด้วย เฮื่อ ฮ่า ฮ่า ห้า…
          ส่งท้ายกับดอกโกเมนสวยๆจากบริเวณทางเข้าสวน สักสองรูปละกันเนาะ

ไปหาเก็บเห็ดกันบ่?

เห็ดขอน

             แหวกหญ้าค่อยหาค่อยเขี่ย บางทีอาจเจอเห็ดขอน อยากได้เห็ดดีๆบางทีก็ต้องมีอะไรเซาะ แหวกไปแหวกมาก็เจอเห็ดขอน แอบอยู่พงหญ้าข้างกอไผ่ ดายกิ่งไม้ใบหญ้าสักนิดนึง แล้วก็สร้างภาพ แชะ!

             แต่ถ้าเป็นเห็ดป่า พวกเห็ดระโงก โอ้ย… สุดๆ แกงออกมาได้น้ำแกงเหนียวๆ ใส่น้ำปลาร้าพอนัวๆ แซบคักเติบเด้อ ยกซด ยกซด เด้อนางเดอ เด้อนางเดอ ตับ ตับ ตับ ตับ.

             คิดเล่นๆ ว่าถ้าชวนผู้สาวสมัยนี้ไปเก็บเห็ด มันจะรู้จักเก็บเห็ดหรือป่าวว้า?  เผลอๆดิ มันจะเก็บเห็ดเบื่อ เห็ดพิษมาต้ม มาแกงให้เรากินนั่นนะดี้.  คงเก่งแต่เดินหาในห้าง รู้จักแต่เห็ดที่เขาเพาะมาขายใสถุงหอแพ็คเกจจิ้งอย่างดี(แพง) ส่วนเห็ดที่มันเกิดเองตามธรรมชาติ แยกแยะออกไหมว่า อันไหนเห็ดกินได้ อันไหนกินไม่ได้ นี่ส่วนหนึ่งก็เพราะชีวิตเราห่างจากวิถีความเป็นชนบทออกไปทุกทีๆ ต้นไม้อะไรก็ยังไม่ค่อยจะรู้จักชื่อ แต่ดาราฉันจำชื่อได้เยอะทีเดียวล่ะ รู้ว่าใครคบหากับใคร ใครเลิกกับใคร อัพเดทเสมอเพคะ

             ชีวิตทุกวันนี้ถูกเทคโนโลยีครอบงำชีวิตมากเกินไป จิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ การค้นหาสัจธรรมของการมีชีวิตค่อยๆลดน้อยลง สิ่งจอมปลอม หลอกลวง กระแสโลกกำลังปิดบัง พรางตาให้คนหลงใหลยึดติดอย่างเหนียวแน่นจนหลงลืมตั้งคำถามกับตัวเอง ว่าเราเกิดมาทำไม มีชีวิตอยู่เพื่ออะไร มีจุดหมายปลายทางกันที่ตรงไหน ก้าวออกมารู้เท่ารู้ทันความเป็นไปของชีวิต ของธรรมชาติ ของโลก และก็วางแนวทางชีวิตไว้ให้ถูกต้อง สร้างความมั่นคงทางจิตใจ ไม่หวั่นไหวในโลกธรรม ถึงอยู่ในโลก แต่ทำอย่างไรจึงจะไม่หลงโลก สร้างประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ต่อโลก ต่อเพื่อนร่วมเกิด แก่ เจ็บตาย ไม่ใช่เกิดมาสะสมจมกิเลสจนตายปล่าว มันจะเสียทีที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ เวลาเพียงไม่กี่ปีของการมีชีวิต เราจะใช้ชีวิตอย่างไร ให้ได้รับความสุขที่แท้จริง ไม่ช่ความสุขมายาหรือความสุขเทียมๆหลอกๆหรือสุขแบบบ้าๆโง่ๆวูบเดียวทางหู ทางตา ทางลิ้น ทางจมูก ทางผิวสัมผัส ที่มันไม่เคยยอมพอสักที แสวงหาไม่เคยหยุดหย่อน นะ เมื่อใดก็ตามที่เราเข้าไปสงบระงับความคิดปรุงแต่ง สุขทุกข์ ต่างๆนาได้ ตัดวงจรสายของทุกข์ได้ ใจของเราจะเป็นอิสระอย่างแท้จริง เป็นสุขแท้ที่ควรไปให้ถึง แม้ได้ชิมรางบ้างเป็นครั้งคราวก็ยังดี ดีกว่าที่จะวิ่งตามสุขเทียมๆ หลอกๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยด้วยความไม่รู้นี้เอง.

             เหยื่อล่อเหยื่อลวงบวกกับตัณหาที่มากมี กิเลสในใจที่ไม่เคยอิ่มเคยพอ หิวอยู่ตลอดเวลา เป็นความบ้าของตัณหาที่เกินพอดี ชีวิตคนกลุ่มหนึ่งใช้ทรัพยากรโลกหมดเปลืองไปเพื่อตัวเองมากมาย ผลคือขยะ มลภาวะ ปรากฎการณ์เรือนกระจก โลกร้อน และปัญหาสังคมอีกมากมาย แต่อีกกลุมหนึ่งชีวิตเป็นไปอย่างสมดุลกับธรรมชาติที่เกื้อกูลกัน ซึ่งสองกลุ่มนี้ปริมาณช่างต่างกันมากเหลือเกินในยุคนี้ เฮ้อ…

             ผมพาไปเก็บเห็ดแท้ๆ เอ้?? หรือว่าผมพาไปไหนกันแน่? ถ้าเห็ดมันหายาก ก็ลองเพาะเห็ดกินเองบ้างก็น่าจะสนุกดีนะ เห็ดฟางลองดูไม่ยาก เดี๋ยวก็มีฟางแล้ว ลงทุนไม่มาก ได้เหงื่อด้วย ได้ลุ้นด้วย ได้เก็บกินเองด้วย และยังภาคภูมิใจอีกด้วย  ทำนิดๆหน่อยๆก่อน เก่งแล้ว มีประสบการณ์หน่อยแล้วจึงค่อยเพิ่ม จึงค่อยขยาย อาจเป็นรายได้ครัวเรือนเล็กๆน้อยๆ นะเห็ดฟาง ขอฝาก ส่วนใครว่างก็ออกไปสำรวจบริเวณบ้าน บริเวณสวน ไร่นา สิ ป่ารกๆ แหวกหาดูสิพอจะมีเห็ดให้กินไหม ระวังสัตว์มีพิษด้วย นี่ก็ใกล้จะหมดฤดูฝนแล้วนะ ถ้ามัวแต่ช้าเดี๋ยวคนอื่นเอาไปกินก่อน  ไปเลยไปหาเห็ดกัน.