Category Archives: เกษตรเพื่อชีวิต

สงสารต้นไม้ในยามแล้ง

ช่วงร้อนแล้ง เป็นเวลาที่ยาวนานมากสำหรับปีนี้ ต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมสระเพื่อปรับภูมิทัศน์หลายอย่างมีอันเป็นไป เพราะขาดการดูแล มีบางโซนต้องรื้อเปลี่ยนทั้งเซต บางโซนต้องซ้อม บางโซนต้องตัดต้นเก่าใบแห้ง และยังมีอีกหลายโซนใหม่ที่ทำค้างไว้ และมีอีกหลายโปรเจคริมสระรอการปรับซึ่งต้องรอร่มเงาไม้ซึ่งคงรออีกไม่กีปี ค่อยทำไป ของเก่าก็ต้องดูแล ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง โยกย้าย ซึ่งมันไม่ธรรมดาเลยนะ(เหนื่อย) เพราะสรรพสิ่งไม่เคยหยุดนิ่งแห่งการเปลี่ยนแปลง แต่ความเหนื่อยมันไม่ค่อยรู้สึกมากเพราะความเพลินกับความสุขมันเคลือบไว้อยู่ นี่คือสิ่งที่เรามอบเวลาให้ต้นไม้ และสิ่งแวดล้อม สิ่งได้กลับคืนนั้นมันมาทันที ณ ขณะนั้น และทุกทีที่ได้อยู่ใกล้ต้นไม้ที่เราดูแลเอง ยิ่งศิลปะแห่งการจัดวางและความงามสมบูรณ์ตามธรรมชาติของต้นไม้แต่ละชนิดลงตัวแล้ว ได้ดูได้มองได้อยู่ใกล้ยิ่งมีความสุข ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมคนเริ่มมีอายุถึงชอบต้นไม้ (นี่แสดงว่าอายุผมเริ่มได้แล้ว) เดือนนี้จะกลับไปปลูกกล้วยน้ำหอม(ขยาย) ทำโซนต้นจั๋งซักแถวประมาณ5-6ต้น ตอนกิ่งมะนาวไว้(หรือต้องรอต้นฤดูฝน) วัสดุพร้อมแล้วว่าจะตอนช่วงสงกรานต์ก็ยังไม่ได้ทำ ย้ายและขยายโซนเฮลิโคเนียอันนี้ว่าจะทำช่วงสงกรานต์แต่ก็ไม่ได้ทำ โครงการในหัวเยอะมาก ระบบน้ำก็ทำค้างไว้ เตรียมตัวเกรียมและไหม้อีกรอบเร็วๆนี้ คิดแล้วก็ตื่นเต้น เพราะเตรียมเพลงไว้ร้องยามแดดร่มลมตกหลายเพลง คิดฮอดบรรยากาศกิจกรรมเสียงดนตรีเสียงเพลงยามเย็นที่สุด ขลุ่ยยามดึก นอนตากลมข้างนอกมองดูแสงดาว แสงเดือน แสงหิ่งห้อย โอ้ย ไม่ไหวแล้วโว้ย!

ฝากรูปแต่ละโซนริมสระที่กำลังปรับภูมิทัศน์ ช่วงปลายปี2556

jojo2 086 jojo2 087 jojo2 089 jojo2 091 jojo2 092 jojo2 093 jojo2 096 jojo2 098 jojo2 102

เปลี่ยนผ่าน

          ในช่วงกลางเดือนตุลาคมอากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงจากฤดูฝนจะเข้าสู่ฤดูหนาว เข้าสู่ช่วงการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ปีนี้ข้าวทางภาคอีสานคงได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนอย่างฤดูกาลที่แล้ว เพราะช่วงต้นฤดูกาลเพาะปลูกฝนทิ้งช่วงบ่อยและยาวนาน นี่คือความไม่แน่นอนของสภาพดินฟ้า อากาศ ซึ่งทำให้ได้ผลผลิตไม่แน่นอนตามไปด้วย แถมราคาก็ถูกกดถูกหักอยู่เสมอ วันนี้รัฐยังแก้ปัญหาที่ปลายเหตุอยู่ เพราะมันเป็นอะไรที่เห็นผลรวดเร็ว ถูกอกถูกใจชาวนา ที่ยังมืดบอดไม่เข้าใจปัญหาของขบวนกาจัดการของตัวเองอย่างแท้จริง และได้แต่รอความหวังจากรัฐบาล ซึ่งพฤติกรรมอย่างนี้เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ ชาวนาไทยกำลังอ่อนแอลงเรื่อยๆ ระบบเศรษฐกิจแบบทุนกำลังกลืนวิถีชีวิตชาวนาแบบเดิมๆแทบหมดสิ้น ทุกอย่างในขบวนการทำนา กลายเป็นเงินเข้ามาขับเคลื่อนหมดเลย ตัวชาวนาเองก็ไม่มีเรี่ยวแรงจะทำเองได้ ลูกหลานก็ไม่ค่อยได้ช่วยแล้ว หลายครอบครัวลูกจะไปทำงานในเมืองใหญ่ แล้วส่งเงินกลับมาเป็นค่าจ้างแรงงานในการทำนา ครอบครัวชาวนาลูกก็ไม่ทำนาแล้ว ไปทำงานที่อื่น แถมมีหลานมาให้เลี้ยงดูอีกด้วย พบมากเหลือเกินตามชนบททุกวันนี้ การอาศัยช่วยเหลือกันเหมือนอย่างสมัยแต่ก่อนตอนสมัยผมเด็กๆไม่มีแล้ว ทุกแรงงานต้องจ่ายค่าตอบแทนเป็นเงิน การขับเคลื่อนเศษฐกิจทำให้ความคิดจิตใจเราเปลี่ยนไป ต้องได้ผลประโยชน์ถึงจะช่วยกัน การเกื้อกูลด้วยใจเมตตากรุณาที่หวังผลเพียงความสุขทางใจที่ได้ช่วยเพื่อนมนุษย์ค่อยเลือนหายไป เห็นได้ชัดในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา วันนี้เราพึ่งพาตัวเองน้อยลง วันนี้ทักษะความสามารถในการพึ่งตัวเองน้อยลง คือหาเงินจากอาชีพที่เราถนัด ได้เงินก็เอาไปซื้อปัจจัยอะไรต่างๆ มีสาระบ้างไร้สาระประโยชน์บ้าง การงานทุกวันนี้ก็ไม่ต่างกับการทำการเกษตรเชิงเดี่ยวของเกษตกร เพราะเกษตกรทุกวันนี้ก็รัอิทธิพลมาจากสังคมเมืองนั่นเอง ศิลปะ ทักษะ อาชีพ ความรู้ความสามารถ เราถูกบีบลง ดังนั้นเราจึงต้องการเงินรายได้มากพอสมตวรจากการงานที่ทำนั้นๆ ไปซื้อ ไปจ้าง แถบจะทุกอย่าง วันนี้เราพึ่งตนเองน้อยลงในลักษณะอย่างนี้ วันนี้เราพึ่งปัจจัยภายนอกมาก แน่นอนว่ายิ่งพึ่งมากก็ต้องหาเงินให้เก่ง เพื่อให้มีรายได้มากๆ มาซื้อในส่วนที่เราทำเองไม่ได้ ในสวนที่เราไม่มี ในส่วนที่เราพร่องเราขาด ยิ่งพร่องมากก็ยิ่งต้องเหนื่อยมาก มองอีกมุมเราเป็นอยู่ด้วยความพร่องหรือเราเป็นอยู่ด้วยความเกินกันแน่ อันนี้ก็น่าคิด เป็นเรื่องเฉพาะบุคคลไปแล้วกัน

          ก็บ่นๆกันไป สำหรับเรื่องการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ก็แก้ปัญหากันไป รัฐบาลก็เอาตัวรอดไปวันไม่ต่างจากเราเหมือนกัน ต่างกันที่วิธีการ และผลที่ว่ามัดจะรอดไปแค่ไหน ทั้งโลกนี้และโลกหน้าหรือป่าว? รัฐบาลไม่ใช้ที่พึ่งอันประเสริฐ อย่าไปหวังอะไรกับกลุ่มคนเหล่านี้มาก ปัญหาของเขามีเยอะ อย่างที่เคยว่าไป ยิ่งแก้เหมือนยิ่งผูกนั่นแหละ ปัญหาทุกวันนี้ยิ่งทวีความซับซ้อนมาก สุดท้าย คนเรากต้องกลับมาแก้ที่ตัวเราเองอยู่ดี เรารู้จักตัวเราเองดีแค่ไหน ทุกคนมีปัญหาของตัวเองทั้งนั้น ใครหมดปัญหาในตัวเองก็คงไม่ต้องมาเกิดอีก จริงมั๊ย?  ปัญหาของเราเองเรายังงงๆยังไม่รู้เรื่องจะให้คนอื่นมารู้มาเข้าใจมาให้คำตอบเราถูกได้ไง  

          สังคมบริโภควันนี้ ค่านิยมในการบริโภคของผู้คนวันนี้กู่ไม่กลับแล้ว กำลังดำเนินไปสู่การล่มสลาย การแก่งแย่ง การเอารัดเอาเปรียบ การแย่งชิงทรัพยากร ปัญหาด้านพลังงาน ปัญหาทางด้านอาหาร คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ และปัญหาอีกหลายๆด้าน กำลังก่อตัวขึ้นครับ ยิ่งความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมากเท่าไหร่ ความเสื่อมที่เป็นเหมือมะเร็งร้ายก็กำลังแพร่กระจายรุกลามเช่นกัน ดูแล้วถ้าเปรียบโลกกับการเป็นมะเร็งแล้ว ตอนนี้อาการห้าสิบ-ห้าสิบ แต่โดยพฤติกรรมรวมๆแล้ว ไม่มีทางหายแน่ครับ โรคของโลกนี้ต้องดูกันยาว อาการป่วยเราทุกคนก็ต่างรู้ๆ พวกเราก็เหมือนพวกดื้อไม่ฟังคำเตือนหมอ อย่างไงอย่างงั้นเลย สังคมใหญ่ปัญหาก็ใหญ่ตาม การจัดการควบคุมดูแลมันก็ไม่ทั่วถึง สังคมเล็กปัญหาก็ไม่มาก หากมีความรักและความสามัคคีเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้พัฒนาตนเองอย่างเข้มแข็ง ซึ่งรวมไปถึงการพัฒนาทางด้านจิตใจด้วย แล้วสังคมเล็กนั้นจะเป็นสังคมที่น่าอยู่ที่สุด การพัฒนาประเทศของเราวันนี้ไม่ต่างกันมากนักกับต้นไม้ที่ล้อมมาปลูก มันไม่มีรากแก้ว ระบบรากมันไม่แข็งแรง ก็ได้แต่ประคองกันไป ปล่อยไปไม่รู้วันใดลมแรงๆมันจะมาโค่นต้นล้มลง ฉะนั้นรากต้องดี ต้องแข็งแรงก่อน ต้องหาแร่ธาตุ น้ำ อาหาร เก่ง ต้นไม้ใหญ่ รากแก้วต้องลึก รากแขนงต้องแผ่กว้าง ถามว่าวันนี้รากเก่งพอจะหาอาหารเองได้หรือยัง ถ้ายังก็ปรับปรุงบำรุงดินซะ รากดีเขาก็จะส่งอาหารไปเลี้ยงดูลำต้นได้ดีเอง  ถามหน่อยว่าหากรัฐเป็นชาวนา แล้วชาวนาผู้ยากจนเป็นต้นข้าวในนา รัฐบาลบาละใส่ปุ๋ยอะไรลงในนาข้าวตัวเอง ระหว่างปุ๋ยเคมี กับปุ๋ยอินทรีย์ ผมว่าคำตอบมันก็เห็นๆกันอยู่ ดูกันยาว แต่ถ้ารู้และเข้าใจ ก็คาดเดาตอนจบได้เลย คือถ้าเริ่มจากเหตุอย่างนี้ผลตามมาเป็นอย่างไร ถ้าเข้าใจแบบนี้ ก็ไม่ต้องเสียเวลาดูจนจบ หากผิด ไม่ดีมีผลกระทบากจะได้รีบแก้ตั้งแต่แรกๆ จะได้ไม่กลายเป็นการแก้ปัญหาใหญ่ในภายหลัง วันนี้อยากเห็นชาวนาเรียนรู้ที่จะผลิตข้าวอินทรีย์ ผลิตข้าวที่มีคุณภาพ ลดการพึ่งพิงปัจจัยภายนอก มีการรวมกลุ่มผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ แปรรูปเป็นข้าวสาร สร้างแบรนด์ เพื่อสามารถกำหนดราคาสินค้าของตัวเองได้ วันนี้เริ่มเห็นแล้ว แต่ยังน้อยมาก ภาครัฐควรมาบำรุงดินในลักษณะอย่างนี้ให้มากขึ้นถ้ามีความจริงใจกันจริงๆ ขอฝากไว้ (ฝากใคร?) ใครก็ได้ที่สามารถ เอาไปคิดเอาไปทำที

ลอยกระทงคนเดียว

          ลอยกระทงไม่ได้หลงวันหรอกครับ แต่การเขียนเหมือนจะช้าไปสักหน่อย หรือว่าไม่หน่อย เดือนอ้ายจะเข้าเดือนยี่แล้วนะตอนนี้ อากาศช่วงนี้ก็หนาวๆอยู่บ้างเป็นบางเวลา เราเองยิ่งไม่ค่อยจะมีเสื้อกันหนาวใส่ ที่มีก็ตัวบางๆตัวเก่าๆ ตามประสาคนที่ไม่ค่อยซื้อเสื้อผ้า ไม่แฟชั่น ไม่ค่อยแต่งตัว ส่วนในช่วงเมื่อตอนวันลอยกระทงที่ผ่านมาก็หนาวใช้ได้เหมือนกันนะ เพราะลงไปว่ายน้ำเก็บสตังค์ในกระทง พูดเล่น แต่ก็ได้หลายบาท ก็คุ้มเหมือนกันนะ แนะ! ยังจะเล่นอีก.
          ปีนี้ไม่ได้ไปลอยกระทงที่ไหนไกล ลอยที่สระในสวนตามความตั้งใจที่ดูเหมือนไม่ค่อยที่จะตั้งใจสักเท่าไหร่เลย สังเกตุได้จากกระทงเอาเองก็แล้วกัน ก็กว่างานในสวนจะเสร็จ(เสร็จเท่าที่เสร็จเท่าที่พอ) ก็เกือบจะหนึ่งทุ่ม ใจก็อยากจะลอยกระทงที่สวน แต่ไม่มีเวลาทำกระทงเลย แต่นึกขึ้นได้ว่าข้างทางมีต้นกล้วยที่เด็กน้อยนักเรียน(หลานๆ)ตัดเหลือทิ้งไว้ยังอยู่ ถึงตอนนี้คงไม่มีใครเอาไปใช้อะไรแล้วขอละกัน กลับถึงบ้านก็ โป๊ะป๊ะๆ ไม่ถึงห้านาทีเสร็จเรียบร้อย ดอกไม้ล่ะ? เอามาโรยหน้าหน่อย ก็ได้ชวนชมกับดอกโกเมนมาโรยตรงกลางดูดีขึ้นมาอีกนิดหน่อย ธูปเทียนพร้อม ไป!
          มาถึงสวนจะลอยตรงไหนดี ลม น้ำกระเพื่อมไปทางไหน จะไปลุกติดไฟไหม้อะไรไหมเอ่ย? ได้ที่แล้วก็ตั้งจิตตั้งใจขอขอบคุณสระน้ำแห่งนี้ที่ทำให้ที่นี่ดูมีชีวิตขึ้น เริ่มเขียวขึ้น เริ่มมีความหลากหลายของพันธุ์พืช ทำให้เรามีกินมีใช้ ครั้นเมื่อเวลามาอยู่ที่นี้แล้วก็มีความสุข มีอิสระ ปลอดโปร่ง ไร้ซึ่งอะไรที่จะมาบีบบังคับ กดดัน มีลมพัดเย็น เริ่มมีความร่มรื่นขึ้น ยามกลางวันดูปลาก็เพลิน หัวค่ำเป่าขลุ่ย ดูหิ่งห้อยบินระยิบระยับตามขอบตลิ่งก็เพลิน พอตื่นเช้ามาท่ามกลางบรรยากาศที่แวดล้อมไปด้วยทุ่งนาทุกด้าน(ตอนนี้เกี่ยวหมดแล้ว) ท่ามกลางน้ำ(เกือบที่จะเป็นเกาะอยู่เหมือนกัน) มีปลามาลอยรอรับอาหารยามเช้า แต่ผมไม่ค่อยให้หรอก เพราะเปลือง เดี๋ยวเด็กๆจะมาให้ตอนเย็นอีก เช้าๆก็จะมีเสียงนกเขานกกาเหว่าร้อง บรรดานกส่งเสียงคุยกันจอแจ วันนี้แกจะไปหากินที่ไหน ฉันไปด้วยคนสิ เท่าทีพอจับใจความได้(มั่ว) เสียงเหล่านี้กับบรรยากาศรอบตัวที่มีต้นไม้เขียวสบายตา เรียกว่าเป็นสุขสดชื่นในยามเช้า ได้เดินดูพืชผักผลไม้ โตไปถึงไหน แก่หรือสุกพอที่จะเก็บได้แล้วหรือยังวันนี้ อยากกินแล้วนะ ก็เพลินดีไปอีกแบบ เวลาทำงานในสวนก็เพลินดี สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะเรามีน้ำเพียงพอ ในการที่จะมาดูแลพืชผลต้นไม้ต่างๆ เมื่อปีก่อนต้นไม้ดอกไม้ประดับในบ้านเหี่ยวแห้งตายไปมากทีเดียว เพราะระบบน้ำประปาหมู่บ้านไม่ค่อยดี ถึงวันนี้ก็ยังเหมือนเดิม และบวกกับสภาพอากาศที่ร้อนเหลือเกิน ก็ขนมาที่สวนนี้ และก็ได้น้ำจากสระนี้ช่วยไว้ ก็ขนมาหลายเที่ยวอยู่เหมือนกัน ที่ตายไปก็เยอะ ก็มาเริ่มกันใหม่ที่นี่ สิ่งต่างๆที่กล่าวมานี้ขาดน้ำไม่ได้เลย น้ำให้ชีวิตจริงๆ เมื่อเห็นความสำคัญเช่นนี้จะให้ไปลอยกระทงที่ไหนได้อีก ถ้าจะลอยก็ที่นี่เท่านั้น เพื่อแสดงความเคารพบูชาและขอขมาในสิ่งที่แย่ๆ ที่ได้เคยทำลงไป ที่นึกออกตอนนั้นมีอย่างเดียว คือเยี่ยวในน้ำ อุบาทว์เนาะ 555  เพราะขี้เกียจขึ้นมา ครั้นจะขึ้นมาก็หนาว ไหนจะต้องวิ่งหาที่กำบังอีก ทำงานในน้ำนะเนาะก็เสียเวลาขึ้นๆลงๆ ก็เลยขอขมาในส่วนตรงนี้ และก็อธิฐานเหมือนกับตอนขึ้นกระท่อมใหม่ พูดให้หรูดูดีขอเรียกว่ารีสอร์ทแทนกระท่อมได้ไหม? แต่กระท่อมนั่นแหละเหมาะแล้ว แต่ก็ไม่เชิงว่าอธิฐานเสียทีเดียวหรอก แต่เพียงขอให้เจ้าที่เจ้าทาง เทวดาถ้ามีขอให้ช่วยดูแล ค้ำชู เกื้อหนุน ลูกจะมาทำให้ที่นี่ร่มรื่น อุดมสมบูรณ์ ปลูกอะไรก็ขอให้งอกงาม มีกิน มีใช้ มีแบ่ง มีขาย มีสุข และวันนี้ผ่านมาเกือบ4-5ปี ก็ค่อยๆเริ่มสัมผัสได้แล้วถึงความสุขที่ได้รับกับวิถีพอเพียงตามปรัชญาของในหลวงท่าน ถ้าวันไหนได้ยินเสียงเพลง เสียงขลุ่ยดังขึ้นในหัวค่ำวันไหน วันนั้นช่างมีความสุข มีสุนทรีย์ ท่ามกลางบรรยากาศรอบๆข้าง ที่สายตาเรามองออกไป มั่นอิ่มเอมยังไงบอกไม่ถูก ต้องปลดปล่อยออกไปให้โลกรู้ไปตามสายลม ว่าสุขจริงโว้ย! เสียงจากกระท่อมหัวนากู่ก้องดังออกไป มันบอกอย่างนั้น และไม่ต้องเกรงใจใครว่าเขาจะหูหนวก เฮ้ย! หนวกหูหรือรำคาญ เพราะมีระยะห่างจากชุมชนพอสมควร ทั้งๆที่สวนมันก็ไม่ค่อยจะมีอะไรมากมายแต่ความสุขใจมันเกิดขึ้นง่ายๆกับสิ่งเล็กๆเรียบง่ายเพียงแค่นี้เอง ก็แปลกดีเหมือนกัน
          ตกเย็นของอีกวันเด็กๆมาเยี่ยมมาเยือนเหมือนเดิมทั้งหญิงทั้งชาย ขี่จักรยานกันมาบ้าง เดินมาบ้าง หรือว่า มาตามเพื่อน พากันมาให้อาหารปลา  ก็มาเห็นกระทงเรา เด็กๆก็เลยถามเพราะสงสัย ถามว่ากระทงใครหรือหนอนี่ มันซกม๊กตลกดี เจ้าของกระทงนี้ห่วยจังเลย กระทงผีบ้า กระทงผีบ้า กระทง กระทง กระทงผีบ้า 555. ถามว่าอายไหม? เอาเป็นว่าปีหน้าเอาใหม่ คอยดูก็แล้วกัน แล้วก็จะไม่ลอยคนเดียวเหมือนอย่างปีนี้ด้วย เฮื่อ ฮ่า ฮ่า ห้า…
          ส่งท้ายกับดอกโกเมนสวยๆจากบริเวณทางเข้าสวน สักสองรูปละกันเนาะ

ให้อาหารปลาปลา

          ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้อาหารปลา ได้สาธิตวิธีการให้อาหารปลาแก่แขกผู้แวะเวียนมาพักผ่อน มาเยี่ยมเยือน รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน
          คิดว่านี่คือสปาปลาหรือป่าว? ต้องขอกราบเรียนว่า ถ้าไม่มีอาหารมาให้ ปลาไม่มาใกล้ครับ ปลาที่นี่ไม่ได้เชื่องขนาดนั้น 
          เด็กๆ บันดาลูกแหล่งของผมชอบการให้อาหารปลามาก ต้องเก็บหัวอาหารไว้ดีๆ เวลาให้อาหารปลาแล้วมันเพลินนะเดะ บอกพอได้แล้วไม่ค่อยยอมพอสักที ถ้าเด็กๆลูกหลานพวกนี้แห่กันมาละก็ปวดหัวตลอด แต่ก็ดีไม่เหงาปาก
         สระนี้ได้ลูกพันธุ์ปลาตะเพียนมาปล่อยหลายพันตัว จากการเป็นสมาชิกกรมประมง เมื่อเดือนเมษายน ปีนี้น้ำเยอะมากแต่ก็สระนี้ก็สามารถระบายออกได้ แต่ลูกปลาออกจากกระชังหมดเลยแต่ก็ยังอยู่ในสระลูกนี้อยู่ ส่วนของอา สระที่ใกล้ๆกัน ปล่อยลงสระเลย พอน้ำล้นคูสระ ปลาไม่รู้ออกไปบ่อไหนบ้างเพราะมีหลายบ่อติดๆกัน ก็เลยมั่วเลยทีนี ที่ว่ามีหลายบ่อติดกันเพราะตอนปู่ยังมีชีวิตอยู่ หลังจากเกษียณปู่ได้มาเลี้ยงปลา ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครสืบทอดเลย น่าเสียดาย แต่ก็ไม่ได้ทิ้งคือไม่เลี้ยงเอาจริงเอาจัง ก็จะสูบสระจับปลาทุกปี ปลาเล็กปลาน้อยก็โยกย้ายบ่อ ตัวใหญ่ก็เอามาแบ่งกัน จับปลานี้สนุก เด็กๆ ลูกๆหลานๆชอบ
           ส่วนสระที่น้องกันเองกำลังให้อาหารปลาอยู่นี้ ก็สูบไปเมื่อปีที่แล้ว ได้ปลานิล ปลาตะเพียน ปลาทับทิม ปลาช่อน ทีเด็ดคือปลาไน 3 ตัว บิ๊กๆ ใหญ่เท่าน้องกันเองตอนนั้นเลย ต้องอุ้มขึ้นมา วันนั้นสนุกอ่ะ ทำกิน แบ่งพี่ แบ่งน้อง เด็กๆลูกหลานที่มาช่วยกันจับ ตัวเล็กก็รีบเอาไปปล่อยอีกสระ ตัวใหญ่หน่อยก็ปล่อยพักไว้ในกระชัง เพื่อสำหรับทะยอยเอามากินได้สะดวก ตะเพียนใจเซาะ ตายหงายท้องไปเยอะ ผมก็นอนเฝ้าอยู่ที่นั้น ตอนกลางดึกต้องตื่นมาตักออกแล้วหมักเกลือแช่ตู้เย็นไว้ ส่วนที่แน่ๆก็มีนะ กระโดดสูงทีเดียว ตะเพียนนี่กระโดดสูงมาก กระโดดออกมาจากกระชังได้ ก็ได้เป็นอิสระไป
           อาหารก็ให้หัวอาหารบ้าง เศษผัก ผลไม้บ้าง กลางคืนก็เปิดไฟล่อแมลงให้ทุกคืน ก็ยังไม่เคยเสียค่าไฟฟ้าเพราะใช้ไม่เกินที่รัฐบาลกำหนด ปั๊มน้ำก็ใช้นะช่วงฤดูปลูกผัก แต่ก็ไม่ถึง ปีนี้ไม่แน่เขาปรับหน่วยลง เหลือ60 หน่วย อันนี้ไม่แน่ใจว่าข้อมูลถูกไหม
           สระนี้จะดูยาวๆ เป็นสระที่มีมาตั้งแต่ผมยังไม่เกิดละมั้ง ขุดลอกใหม่ล่าสัด เอ้ย! ล่าสุดเมื่อ 6 ปีก่อน ผังสวนนี้เปลี่ยนแปลงบ่อยมากในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา มาฟังแนวคิดของสระนี้กันหน่อย เผื่อที่ใครจะได้นำไปปรับใช้ คือ ขุดยาว เพื่อลดอัตราการสูญเสียน้ำ จากการระเหย ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ต้องปลูกต้นไม้รอบคู เพื่อรากต้นไม้จะได้รักษาแนวตลิ่ง ไม้ต้องรดน้ำให้เมื่อยด้วย เป็นร่มเงา ลดการระเหยของน้ำ ปลูกอะไรบ้าง ก็เยอะแยะไปหมด พื้นสระก็ไม่สม่ำเสมอ มีต่างระดับ มีตื่นมีลึก ประโยชน์ต่อชนิดปลา ระบบนิเวศในน้ำ เมื่อน้ำลดก็ไม่แห้งพร้อมกันไปทีเดียว
           มีวันหนึ่งฤดูร้อนพาลูกน้องมาเล่นสองคนดีดกีต้าร์ เล่านิทาน สักพักมันอยากเล่นน้ำ ก็ปล่อยมันแก้ผ้าลงเล่น ก็บอกว่าเล่นในบริเวณนี้นะมันตื้นไม่ลึก หลานมันก็ว่ายน้ำไม่เป็นด้วย ป.2กับ ป.3 ไอ้ ป.2 ก็เล่นติดบันไดริมฝั่ง ไอ้ป.3ก็เดินเล่นไปทั่วทั้งตรงกลางทั้งข้ามไปอีกฝัง เราก็ดูมันเล่น ใจก็อยากเล่นเหมือนกัน โดยส่วนตัวก็แอบเล่นอยู่บ่อยๆ(ต้องแอบ อายเหมือนกันนะเฮ้ย) ก็ดูมันเล่นมันหยอกกันก็นั่งอมยิ้ม เพลินดี ไอ้ตัวใหญ่ก็ดึงไอ้ตัวเล็กลองลงไปตรงกลางบ้างสิ บอกไม่ลึกๆ ไอ้ตัวเล็กก็กลัวเกาะหลักริมฝั่งไว้แน่น ร้องไม่ไปๆ เล่นไปเล่นมาไอ้ตัวใหญ่ก็หลืนควม(ไม่เชื่อคำบอก)ออกนอกเขตเจอบริเวณน้ำลึกอย่างกระทันหัน เราก็ดูอยู่ตลอด น่านเอาแล้วมึงเหมือนงานจะเข้า เฮ้ย! ดูมันก่อน ให้มันช่วยตัวเองก่อน จ้วงน้ำใหญ่เลย สองแขนพร้อมกันด้วย และก็ไม่ไปไหนมาไหน ไอ้ตัวเล็กก็ไม่รู้เรื่องเกาะหลักตีขาเล่นอยู่ริมฝั่ง สักพักความดิ้นรนสุดชีวิต มันก็เข้ามาเหยียบพื้นบริเวณน้ำตื้นตรงกลางได้ แหม..คิดว่าจะได้เล่นน้ำบ้างแล้วเชียว กำลังคิดหาข้ออ้างไม่ให้อายเด็กๆอยู่ทีเดียวเชียว  ฮึ้ย. ดูสีหน้าพี่แกตื่นตระหนกมาก เหนื่อยด้วย ก้มหน้าก้มตาหอบรวบรวมสติอยู่สักพักหน่อยๆก็พยายามเนียนเหมือนเมื่อสักครู่นี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เห็นแล้วก็ขำ แล้วเล่นเป็นปกติ ก็ปล่อยเขาเล่นไปอีกสักพักหนึ่งก็เรียกให้ขึ้นมาได้แล้ว พอขึ้นมาก็มาบอกเราว่าเกือบจะจมน้ำ บ่าวโจ้เห็นไหม? ไอ้เราก็ขำ แล้วบอกว่าเห็น แล้วเขาจึงบอกว่าไอ้ตัวเล็กว่ามันลึกอีหลีโว้ย กูว่ายจนหว่า ไอ้เราก็ได้แต่ขำ หันมาถามเราอีก บ่าวโจ้คือฮู้ว่ามันลึก เอ้า! แล้วทำไมถึงจะไม่รู้ ถ้าไม่รู้จะบอหรอ นั้นและบอกไม่เชื่อ คุยเล่นหัวกันสักพัก ก็ไล่มันพากันกลับบ้าน มันก็เดินเลาะๆและๆ หาผักบุ้งมาโยนให้ปลาตรงที่กระท่อม สักพักก็กลับ เราก็ดูน้ำมันจะหายขุ่น ตกตะกอน ใส ก่อนพ่อเราจะมาไหมหนอ เพราะพ่อนี่ช่างสังเกตุสุดๆ และก็โชคดีไปที่พ่อผมไม่ถามอะไร ผมนี่มีความผิดนะ วันนี้เราดูอยู่ก็ดีไป หากเด็กพากันแอบมาเล่นกันเอง เป็นอะไรขึ้นมามันจะยาก แต่เชื่อเถอะว่าหากเราไม่อยู่ไม่ว่าจะบ้านหรือสวนก็ตาม เด็กไม่ค่อยกล้าเพราะเด็กๆกลัวพ่อกับแม่เรา(ยายครูตาครู อืมมม..)  
           แล้วความยาวของสระควรยาวแนวทิศไหน ตรงนี้ขอแนะนำแนวเหนือ-ใต้ ซึ่งถ้าเรามีต้นไม้รอบคูสระ ร่มไม้จะช่วยกันลดความร้อน ลดการระเหยของผิวน้ำ คือเช้าก็บังแสงแดดจากต้นไม้ฝังทิศตะวันออก บ่ายก็ได้ต้นไม้จากทิศตะวันตกบัง ประมาณนี้
           เวลาสูบปลา สาปลาก็ง่ายสำหรับพื้นบ่อต่างระดับ ก็ไล่ไปรวมในบริเวณที่ต่ำ ขึ้นกับการออกแบบด้วยว่าเป็นยังไง พอน้ำแห้งอาจจะกลายเป็นสองบ่อก็ได้ อะไรประมาณนี้
           อันนี้ก็เป็นการแนะนำการขุดบ่อ ขึ้นอยู่กับพื้นที่ความเหมาะสม แนวคิดนี้อาจจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เพราะน้ำสำคัญทำอย่างไรจะมีน้ำใช้ตลอด ปีก่อนให้ญาติมาปลูกข้าวนาปรัง 2 ไร่ บนแปลงนาสาธิต น้ำก็ไม่หมด แต่เสียตรงที่นกเยอะ ใกล้บ้านด้วย แถวบ้านก็ไม่มีใครทำนาปรังซะด้วย หุ่นไล่กาก็ไร้ประโยชน์ คนไล่ก็ไม่ชนะไล่ มีบทเรียนแบบนี้ ปีนี้ก็เลยไม่มีคนนาปรัง นาปีปีนี้จึงเป็นข้าวนาเรื้อ จากนาดำนาปีปีที่แล้ว เป็นแบบอินทรีย์ปีแรก นาเรื้อด้วย ไม่หว่าน ไม่ดำ งอกมาเอง ใช้รถเกี่ยวข้าวร่วงเยอะ ต้นก็งามใช้ได้อยู่
           ให้ปุ๋ยทางใบโดยการพ่น 2 ครั้ง ครั้งแรก พ่อพ่นเอง 3 ถัง ครั้งที่สอง ผมพ่นเอง 4 ถังครึ่ง ถังแรกเหนื่อยสุดๆ เพราะเริ่มจากตรงยากดินโหล่มน้ำลึก ขาอ่อนล้มเครื่องจมน้ำดับ ได้ขึ้นมาพักหายเหนื่อย เมื่อยหน้าขา สังเกตที่ล้มก็ใกล้ๆบริเวณพ่อสะดุดเลยแต่ยังทรงตัวเดินต่อได้มีภาพนั้นด้วย 

           วันนั้นผมทำหน้าที่ตักน้ำผสมสูตรให้พ่อแล้วช่วยยกใส่หลัง แล้วตามถ่ายภาพให้ แล้วพ่อจากวันนั้น หน้าที่นี้ก็เลยตกเป็นของที่ผมในสองครั้งถัดมาแต่เพียงผู้เดียว ย้ำผู้เดียว ครั้งแรกเจ็ดถัง 4 ไร่ เดินไกลมาก เหนื่อยมากๆ กลับมากินข้าวมือสั่น ครั้งที่ 2 ของผม 3 ไร่ และพืชสวนด้วยอีก 6ถัง เดินไม่ไกล ไม่ค่อยเหนื่อยมาก เหนื่อยตอนที่ล้มทีแรกนี่แหละ ถามว่าพ่นปุ๋ยทางใบแล้วไง
           ผลดกดี บวบนี้ให้ผลผลิตคุ้มค่าเกินราคา กินแล้วกินอีก ต้ม ผัด แกง ลวกจิ้ม หวาน นานถึง2-3 เดือนเลยทีเดียวเชียว ตอนนี้วายแล้ว มะละกอเป็นไง
           คุณเชื่อเรื่องคาถาปลูกต้นไม้ไหม? ตอนเด็กๆคุณเคยขี่คอพ่อคุณปลูกมะพร้าว มะละกอ ฯลฯ  มีลูกมีหลานเรียกมากอดคอ กอดเอว ขี่หลัง ปลูกต้นไม้ พ่อท่องคาถา ทะลึ่งนิดหนึ่ง คาถาไม่หวงว่าแต่จะรับได้ไหม จังไฮแท้เด้ แล้วผลก็ด๊กดก เรียกว่าจนล้นจนเหลือ ให้นกหนูกินบ้างเป็นทาน แจกจ่ายให้เพื่อนบ้านทานเป็นบุญกุศล ใครมาเยี่ยมมาหาก็ได้กิน ใช่ไหมน้องกันเอง

           น้องกันเองบอกว่าหนุนๆ สวนตาอาหร่อยเยอะๆ

           ขนุนงวดแรก รุ่นแรก ปลูเพียง 3 ปี ก็ให้ผลผลิต แล้วก็ตอนนี้ก็กำลังติดผลอีกเป็นรอบที่สองของปี สิ้นปีนี้ก็จะได้รับประทานกัน โดยเฉพาะเจ้าตัวน้อย ชอบเหลือเกิน
ออกดอก

           งวดนี้ให้ผลผลิตเยอะขึ้น แต่ก็ไม่ควรเยอะเกินเพราะต้นยังเล็ก อย่าโลภมาก ทิ้งๆบ้างก็ได้ อย่าเสียดาย ให้ต้นโตกว่านี้แข็งแรงกว่านี้แล้วเราจึงปล่อยตามเรื่องของเขา
           ตั้งหัวเรื่องว่าไงนะ แล้วทำไมออกมาถึงเรื่องขนุนละเนี๊ยะ ตลอดเลย เอาเป็นว่ามาเลี้ยงปลา มาให้อาหารปลาที่มันกินได้ดีกว่าไหม แต่ผมก็มีความคิดจะเอาปลาสวยงามมาปล่อย สระนี้เหมือนกัน ไอ้ที่มันกินพืชกินแพลงตอน ไม่กินปลาเล็กปลาน้อย ไม่แน่ๆ ตอนนี้แค่คิดเล่นๆ ปลาสวยงามก็เคยเลี้ยงมาหลายรอบแล้ว ตายไปหลายรุ่นเหมือนกัน ตู้ปลาเครื่องปั๊มออกซิเจนซื้อมาก็วนกันหลายรอบกับญาติๆผลัดกันเลี้ยงคนละที บ้าบอดีเหมือนกัน มีอะไรให้ฮิตเป็นช่วงๆเสมอ ตามกระแสในกลุ่มด้วยกันเองบ้าง ตามกระแสจากภายนอกบ้าง ตามแบบฉบับบ้านนอกๆ ไม่ฟุ้มเฟ้ออะไร เล่มแบบตามมีตามเกิด พากัมมานึกคิดแล้วก็ขำ นี่แหละความผูกพันฉันเครือญาติแบบชุมชน อยากให้ลูกหลานได้ใช้ชีวิตเหมือนพวกเราเป็นเด็ก แต่คงเป็นไปไม่ได้ เขาเกิดมาในยุคนี้ เขามีอะไรที่ต้องเจอต่อไปหนักกว่าเราเยอะกับสภาพแวดล้อมสังคมในปัจจุบัน ผมเองจะขอเป็นส่วนหนึ่งในการปลูกฝังทัศนคติ จิตสำนึกให้ลูกหลานของผม ในแบบของผม ผ่านตัวของเขาเอง

ต้องรู้จักตลาด,การปกป้องผลกำไร,และการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของคุณ

รู้จักตลาดของคุณ, ปกป้องผลกำไรของคุณและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของคุณ

– จัดการให้มีการกระจายการลงทุนในรูบแบบวิสาหกิจ
– สร้างตลาดห่วงโซ่อุปทานสินค้าแบบปิดและมีความเชื่อมโยงของผู้ประกอบการแบบแนวตั้ง
– เน้นการตลาดทางตรงและพรีเมี่ยม
– มีตลาดพิเศษ
– พิจารณาการสร้างความร่วมมือกับเกษตรกรรายอื่น ๆ
– เพิ่มมูลค่าเพิ่มเข้าไปโดยผ่านกระบวนการในแต่ละขั้นตอนที่เกิดขึ้นภายในฟาร์ม

ยกตัวอย่างกิจกรรม:
– สร้างการบริหารจัดการแบบองค์รวม
– การประเมินองค์กรภายในชนบท
– ใส่รูปแบบความบันเทิง ความเพลิดเพลิน สนุกสนานให้กับฟาร์มเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้สนใจเข้ามา
– การวางแผนธุรกิจการเกษตร
– วางแผนแม่แบบ
– จัดสรรงบประมาณขององค์กรและต้นทุนการผลิตสำหรับการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์
– การเตรียมการสำหรับการตรวจสอบอินทรีย์ : ขั้นตอนและตารางตรวจสอบ
– ส่งเสริมการตลาดทางตรง
– สร้าตลาดของกลุ่มเกษตรกร
– ส่งเสริมชุมชนสนับสนุนในเรื่องการทำเกษตรกรรม
– นำอาหารที่มีภายในท้องถิ่นไปยังสถาบันการศึกษาท้องถิ่น
– ขายสินค้าเกษตรทั้งสดและทั้งที่แปรรูปแล้วให้กับร้านอาหารต่าง ๆ
– รับรองความเป็นอินทรีย์และส่งเสริมใหม่การสร้างหลักสูตรเกษตรอินทรีย์แห่งชาติขึ้น
– ดูแลจัดการช่วยเหลือทรัพยากรด้านการตลาดเกษตรอินทรีย์
– สร้างตลาดทางเลือกอีกทางหนึ่งสำหรับการซื้อขายสินค้าจำพวกเนื้อสัตว์
– จัดตั้งกลุ่มสหกรณ์ของกลุ่มต่างๆตามชนิดรูปแบบการรวมกลุ่มของเกาตรกร เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มสมาชิกเกษรกรด้วกันเอง
– สร้างกุญแจสู่ความสำเร็จในการเพิ่มมูลค่าการเกษตร
– เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร : ภาพโดยรวม
– นำสินค้าข้าวมาแปรรูป
– ผลิตน้ำมันที่ได้จากการแปรรูปจากเมล็ดพืชต่างๆ สำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็ก
– ตัวเลือกการคายน้ำอาหาร
– อาหาที่ทำมาจากถั่วเหลือง : สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับถั่วเหลือง
– น้ำเชื่อมข้าวฟ่าง
– เพิ่มมูลค่าให้กับนมก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ฯลฯ

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการพัฒนาต่อยอดรูปแบบการทำเกษตรกรรมให้มีความยั่งยืน เพื่อให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น วันนี้เกษตรกรไทยส่วนใหญ่ของเรายังอ่อนแออยู่มาก กลุ่มนายทุนใหญ่มีส่วนอย่างมากที่ทำให้เรา ไม่สามารถก้าวข้ามความทุกข์ยากลำบากออกไปได้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเชื่อมั่นในศักยภาพตนเอง สร้างความสามัคคี รวมกลุ่ม รวมพลัง ด้วยหัวใจที่แกร่งที่เรามีอยู่แล้ว แล้วก้าวออกไปด้วยกัน ด้วยรอยยิ้ม ด้วยความผูกพัน ด้วยความสุข ด้วยความยั่งยืน.